Assassin’s Creed Odyssey – Legacy of the First Blade ดำเนินเรื่องราวต่อไปใน Shadow Heritage

Shadow Heritage (มรดกจากเงามืด) คือบทที่สองของเนื้อหาชุด Legacy of the First Blade (ปฐมบทดาบเร้นสังหาร) ในเกม Assassin’s Creed Odyssey ซึ่งจะให้ผู้เล่นได้พบกับ Darius ผู้ลึกลับซึ่งครอบครอง Hidden Blade (ดาบเร้นสังหาร) อีกครั้ง ในคราวนี้เรื่องราวดำเนินไปที่ท่าเรือของ Achaia ซึ่งเป็นเขตแดนชายทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Kephallonia และเป็นโอกาสที่คุณจะได้เปิดโปงแผนสมคบคิดครั้งใหม่ของ Order of the Ancients และได้ติดตั้งอาวุธใหม่พลังทำลายล้างสูงให้เรือของตนอีกด้วย

Shadow Heritage จะปลดล็อกเมื่อคุณเล่นบทแรกของ Legacy of the First Blade นั่นคือ Hunted จบแล้ว และเนื้อหาคราวนี้เหมาะกับผู้เล่นที่เลเวล 28 ขึ้นไป และจะให้คุณได้ออกเดินทางปลดปล่อย Achaia จากเงื้อมมือของแม่ทัพผู้น่าพรั่นพรึงซึ่งเรียกตนเองว่า The Tempest และในขณะที่ Hunted จะเน้นด้านการแทรกซึม แต่ภารกิจส่วนใหญ่ของ Shadow Heritage จะเกิดขึ้นทั้งในและบริเวณโดยรอบทะเลอีเจียน เพราะคุณจะได้สั่งการ Adrestia เข้าปะทะกับกองเรืออันทรงพลังของ The Tempest

สมดุลแห่งอำนาจเหนือท้องทะเลขึ้นอยู่กับ Chimera’s Breath อันเป็นสุดยอดอาวุธทรงอำนาจที่ The Tempest ซุ่มพัฒนาอยู่ โดยนางมีแผนการที่จะใช้อาวุธนี้ออกคุกคามน่านน้ำทั่วทั้ง Achaia แต่คุณสามารถนำมันมาใช้เล่นงานเธอย้อนศรได้โดยการไปขโมยแบบแปลนมาเป็นของตัวเอง จากนั้นจะต้องตระเวนออกล่าสมบัติเพื่อหาเอกสารมาถอดรหัสแบบแปลนดังกล่าว โดยแท้จริงแล้ว Chimera’s Breath นั้นเป็นปืนไฟขนาดใหญ่แบบคู่ที่ติดตั้งตรงหัวเรือ ซึ่งจะสามารถก่อความวินาศได้อย่างรวดเร็วทั้งยังทำให้เรือข้าศึกหยุดชะงักได้ในระยะประชิดด้วย ไม่เพียงแต่จะทำให้เรือข้าศึกตกเป็นเป้าพลธนูของคุณได้อย่างง่ายดายเท่านั้น แต่ยังทำให้การพุ่งชนเรือข้าศึกร้อนแรงได้มากกว่าที่เคยอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น คุณจะยังได้วิธีการใหม่ ๆ ในการกำจัดศัตรูบนพื้นดินเช่นกัน ใน Shadow Heritage เราจะเพิ่มความสามารถใหม่สาย Hunter ให้คุณ นั่นคือ Rapid Fire ซึ่งจะทำให้นักรบรับจ้างของคุณยิงห่าฝนเกาทัณฑ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องหามาเติมตราบเท่าที่ยังมีเกจอะดรีนาลีนเหลืออยู่และยังมีลูกธนูเหลือให้ใช้ แน่นอนว่าความสามารถนี้ใช้ร่วมกับลูกธนูได้ทุกประเภทที่คุณมี ซึ่งจะช่วยให้คุณโจมตีศัตรูด้วยพิษหรือเผาผลาญพวกมันด้วยไฟได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำการอัปเกรดความสามารถก็จะทำให้ยิ่งยิงได้เร็วขึ้นอีก ความสามารถนี้ยังมีประโยชน์ในยามที่คุณออกไล่ล่าพวกลัทธิหน้าใหม่อย่าง Order of the Storm อีกด้วย รวมถึงบรรดานักรบรับจ้างตัวฉกาจที่ The Tempest จ้างมาไล่ล่าคุณและ Darius ไปพร้อมกัน

ใน Shadow Heritage นี้ จะให้นักรบรับจ้างของคุณได้ใกล้ชิดกับบุตรชายหรือบุตรสาวของ Darius มากขึ้น ไม่ว่าจะ Natakas หรือ Neema ก็ตาม (อยู่ที่ว่าคุณเล่นเป็นใคร Kassandra หรือ Alexios) นี่จะเป็นโอกาสให้คุณได้เห็นด้านที่อ่อนโยนและมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นของวีรชนหน้าใหม่ในเนื้อเรื่องนี้ – รวมถึงตัวร้ายด้วยเช่นกัน ความผูกพันที่ลึกซึ้งมากขึ้นกับบุตรชายหรือบุตรสาวของ Darius จะเป็นแกนกลางของเรื่องราวในครั้งนี้ แต่ว่าเหล่าผู้ที่ดำรงชีพด้วยคมดาบจะมีอนาคตอันสงบสุขจริงน่ะรึ?

ก็อาจจะไม่ เพราะ Legacy of the First Blade จะพบกับบทสรุปในเดือนมีนาคมด้วยบทที่สามในชื่อของ Bloodline และจะยังมีอะไรอีกมากรอคอยคุณอยู่ใน Assassin’s Creed Odyssey เพราะจะยังมี Lost Tales of Greece ให้ทุกคนได้เล่นกันฟรี และรวมถึงเนื้อหาชุดที่สองหลังเกมวางจำหน่ายในชื่อ The Fate of Atlantis ที่จะให้ผู้ซื้อ Season Pass ทุกคนได้สัมผัส และจะยังได้เกม Assassin’s Creed III Remastered และ Assassin’s Creed Liberation Remastered ไปเล่นในเดือนมีนาคมด้วยเช่นกัน

Assassin’s Creed Odyssey พร้อมให้เล่นแล้ววันนี้บน Xbox One, PS4 และ PC สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ข่าว Assassin’s Creed Odyssey ก่อนหน้านี้ของเรา คลิกที่นี่

เมนู