เบื้องหลังการสร้าง ASSASSIN’S CREED REBELLION

Assassin’s Creed Rebellion คือเกมมือถือในโลกอันรุ่มรวยและกำลังแผ่ขยายของ Assassin’s Creed โดยมีฉากอยู่ในช่วงการไต่สวนศาสนาของสเปน ซึ่ง Rebellion ได้นำรูปแบบอันสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาสู่โลกของแฟรนไชส์ที่วางรากฐานมานานแล้ว ด้วยการเกณฑ์พลมือสังหาร ทั้งหน้าใหม่และระดับตำนาน จากหลายช่วงเวลาด้วยกัน ผู้เล่นจะสร้างภาคีมือสังหารและเข้าต่อสู้กับพวก Templar ผ่านภารกิจในรูปแบบสลับตาเล่น

เพื่อที่จะได้รู้เกี่ยวกับการสร้างเกมและแผนในอนาคตมากขึ้น เราได้มาพบกับ Jonathan Lavergne ผู้จัดการคอนเทนต์ของโปรเจ็ค Assassin’s Creed Rebellion  กับ Aymar Azaizia ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อข้ามแพลตฟอร์มและการพัฒนาทางธุรกิจ รวมถึง Etienne Allonier ผู้อำนวยการสร้างแบรนด์ของ Assassin’s Creed

Rebellion เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้อย่างไร?

Jonathan Lavergne: ตอนนั้น Ubisoft Mobile กำลังเล็งจะสร้างเกม Assassin’s Creed บนมือถือเกมใหม่ เราเลยมองหาเกมที่จะเหมาะกับแพลตฟอร์มนั้นมากที่สุด และเราได้หารือเกี่ยวกับหลากหลายคอนเสปทั้งในและนอกสตูดิโอ

สมาชิกทีมบางคนที่ Behaviour Interactive ซึ่งเป็นทีมแรกที่พัฒนา Rebellion มาแต่เดิม ปรากฏว่าเป็นแฟนของแฟรนไชส์ Assassin’s Creed มาอย่างยาวนาน  พวกเขามาหาเราพร้อมขายงานที่น่าสนใจซึ่งเป็นการเริ่มความร่วมมือในงานออกแบบและพัฒนาเกมอย่าใกล้ชิดระหว่าง Ubisoft Mobile และ ทีมสร้างแบรนด์ Assassin’s Creed

อะไรที่ลักษณะเฉพาะตัวของเกมนี้?

JL: ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ  ของการพัฒนา Assassin’s Creed Rebellion ถูกสร้างบนฐานของวิสัยทัศน์สร้างสรรค์อันมั่นคง ที่มีเป้าหมายเดียวในใจ คือการขยายแฟรนไชส์ AC ไปยังมือถือในวิธีที่สมเหตุสมผลที่สุด

เราต้องการเคารพใน DNA เกมเพลย์ของแฟรนไชส์นี้ ขณะเดียวกันก็พยายามตัดแต่งให้มันเหมาะกับประสบการณ์บนมือถือ นั่นคือวิธีที่เรามากลั่นและจินตนาการเสาหลักของเกมเพลย์ขึ้นมาใหม่ ทั้งการลอบเร้น, การลอบสังหาร, การวิ่งโดยอิสระ, และการต่อสู้ให้มาอยู่ในรูปแบบเกมเพลย์แนวกลยุทธ์ RPG ที่เหมาะกับมือถือ ผลลัพธ์คือภารกิจแบบสลับตาเล่นสั้น ๆ ซึ่งในระหว่างภารกิจนั้น คุณจะเป็นผู้นำทีมมือสังหารทั้งสามคนลอบเร้นเข้าไปในฐานที่มั่นที่ยังไม่เคยได้สำรวจมาก่อน

Aymar Azaizia: เมื่อไรก็ตามที่เราทำงานบนสื่อหรือแพลตฟอร์มใหม่ เราจะค้นหาวิธีที่จะถ่ายทอดมันออกมาให้เคารพต้นฉบับ เราต้องการเฉลิมฉลองให้ตัวละครของเรา ให้ผู้เล่นใช้เวลากับพวกเขา และใช้พวกเขาเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ของภารกิจ เช่น ลอบเร้น, ต่อสู้, ลอบสังหาร, และปากัวร์ เราเลยมีความสุขมากกับสิ่งที่เกมนี้ได้นำมาให้กับแฟรนไชส์!

JL: เราต้องการให้ผู้เล่นสามารถสร้างภาคีมือสังหารของตัวเองได้ด้วยการรวบรวมเหล่ามือสังหารระดับตำนานหลายคน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ที่ผู้เล่นสามารถร่วมทีมกับมือสังหารคนอื่นในเวลาเดียวกันได้ เนื่องจากเกมจะสำรวจไปในหลายช่วงเวลาด้วยกัน ผู้เล่นจึงสามารถรวมกลุ่มมือสังหารสร้างทีมในฝันได้ ทั้ง Ezio, Alexios, Kassandra, หรือ Bayek แล้วนำพวกเขาสู่การต่อสู้

ในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของ RPG, มังงะ, และอนิเมะของญี่ปุ่น เรายังตัดสินใจที่จะเลือกทิศทางงานศิลป์แนวใหม่ ด้วยสไตล์ที่ดูคล้ายฟิกเกอร์ “จิบิ”

AA: แนวคิดของเกมช่วยให้เรานำเสนอตัวละครได้ทุกตัว และกระตุ้นจินตนาการของเรื่องราวแบบ “อะไรจะเกิดขึ้นถ้า..” มากกว่าเรื่องราวแบบสมจริงสุดยอดและถูกจำกัดขอบเขต ซึ่งสไตล์ของงานศิลป์ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันคือ เราคิดให้ตัวละครของเราน่ารักสุด ๆ เป็นมือสังหารตัวน้อยสุดคิวท์!

Etienne Allonier: ผมคิดว่าทิศทางงานศิลป์แบบใหม่และเกมเพลย์ที่เข้มแข็งจะช่วยให้เราดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่มาแฟรนไชส์นี้ได้ รวมถึงฐานแฟนดั้งเดิมด้วย

JL: ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องการที่จะขยายฟีเจอร์การจัดการที่มีใน Assassin’s Creed บนคอนโซลภาคก่อน ๆ ผู้เล่นสามารถสร้างกองบัญชาการและจัดการกิจกรรมของมือสังหารได้ การจัดการกองกำลังเป็นสิ่งสำคัญของเกม แต่เป็นส่วนเบื้องหลังของเกมเพลย์แบบภารกิจที่เน้นกลยุทธ์

เกมจะแยกตัวเองออกจากเกม Assassin’s Creed อื่น ๆ ได้อย่างไร?

JL: จุดที่น่าตื่นเต้นของเราก็คือ ฉากที่เป็นแก่นของ ACR คือ สเปนในช่วงไต่สวนทางศาสนา ซึ่งภาพยนตร์ Assassin’s Creed เป็นตัวเปิดเรื่องนี้ ในตอนที่เราพยายามทำให้ฉากหลังนี้มาอยู่ในเกมเราเอง มันทำให้เกิดโอกาสที่น่าสนใจและพิเศษมากมายในการขยายเรื่องราวของ ภาคีมือสังหารชาวสเปนของ Aguila ที่ต่อสู้กับศาลไต่สวนศาสนาของ Torquemada ผมแทบรอไม่ไหวที่จะให้ผู้เล่นรู้ว่าเรื่องราวจะจบยังไง!

AA: เราใช้เวลาร่วมกับผู้พัฒนา เพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับฉากหลังนั้น และนิยามกันว่าอะไรที่จะใช้เป็นต้นแบบให้เราสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความสม่ำเสมอไปกับเรื่องราวของ Assassin’s Creed ความท้าทายคือการแนะนำตัวละครใหม่และพล็อตที่สมเหตุสมผล และผมคิดว่าเราทั้งหมดได้ขยายจักวาลของเราออกไป พร้อมทั้งมอบเส้นเรื่องใหม่ที่ยอดเยี่ยมและบันเทิงสุด ๆ เลย

ช่วยขยายความเกี่ยวกับการครอสโอเวอร์กับเกมอื่น ๆ ในแฟรนไชส์หน่อยได้ไหม?

JL: ฟีเจอร์นึงที่เราตื่นเต้นที่สุดคือ Helix Rift Events! ในช่วงอีเวนต์เหล่านี้ ผู้เล่นจะสามารถนำมือสังหารของคุณไปลุยภารกิจ Animus ได้ และออกสำรวจฉากหลังอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ฉากการไต่สวนศาสนาของสเปน จากนั้นก็ไปนำตัวมือสังหารระดับตำนานจากเส้นเรื่องอื่นกลับมา! ตั้งแต่ยุคกรีซโบราณไปจนถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในลอนดอน สิ่งนี้เปิดประตูให้เราเล่นกับคอนเทนต์เดิมของเกม Assassin’s Creed ได้ทุกเกม

AA: เรามีประเพณีที่จะอนุญาตให้ตัวเราเองฝ่าฝืนกฎเกณฑ์และทำให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นตัว เราอาศัยข้อเท็จจริงที่ว่า Animus เป็นเครื่องเล่นเสมือนจริงที่ทำงานและบิดผันความเป็นจริง นั่นเลยทำให้เรามีสกิน Raiden ใน Assassin’s Creed Brotherhood หรือทรราชผู้ชั่วร้าย Washington พร้อมกับ Connor เวอร์ชันพลังโอเวอร์ใน Assassin’s Creed III หรือ Rift ต่าง ๆ ใน Assassin’s Creed Unity หรือ Syndicate มันเป็นฟีเจอร์สุดเจ๋งที่เราได้เห็นใน ACR ผมเห็นด้วยกับ Jo ในเรื่องนี้!

อะไรคือแผนในอนาคตของคุณสำหรับ Rebellion?

JL: เราจะเพิ่มและจัดอีเวนต์แบบจำกัดเวลาของ Helix Rift เป็นประจำและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เล่นมีอะไรใหม่ ๆ ให้เล่นเสมอ และเราจะเพิ่มฉากหลังของเกม Assassin’s Creed อื่น ๆ มาให้เล่นเพิ่มเติมด้วย

ตามแผนที่เราวางไว้นั้น เรากำลังจะเพิ่มฟีเจอร์โซเชียลที่เข้มแข็งกว่าเดิม ดูแข่งขันกันมากกว่าเดิมเข้าไปในเกม แผนเราคือคอยสนับสนุนเกมต่อไปตราบเท่าที่ยังมีคนเล่นอยู่ ความใฝ่ฝันของเราคือทำให้มันสนุกอยู่เสมอด้วยการคอยฟังเสียงสะท้อนจากผู้เล่น

ความหวังของเราคือการขยายขอบเขตแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ต้องขอบคุณธรรมชาติของเกมเราที่เข้าถึงได้ง่ายและเล่นฟรี ทำให้เราสามารถเข้าถึงผู้เล่นกลุ่มใหญ่และต้อนรับผู้เล่นหน้าใหม่ รวมถึงแฟนใหม่ ๆ ของแฟรนไชส์ที่เรารักมากว่า 10 ปี!

EA: เรารู้ว่ามีผู้เล่นอยู่ทั่วโลกที่เล่นเฉพาะบนเกมบนมือถือ แนวทางแบบ RPG และเล่นฟรีจะช่วยให้ผู้เล่นเหล่านี้เข้ามาสนุกกันได้ เรามีความสุขมากที่ได้เห็นแฟรนไชส์พัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับเกมเมอร์ในวงกว้างทั่วโลก และอย่างที่ Jonathan บอก เรามีเซอร์ไพรส์และคอนเทนต์ใหม่ ๆ อีกมาก ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์อันรุ่มรวยของจักรวาล Assassin’s Creed

Assassin’s Creed Rebellion พร้อมให้เล่นแล้วฟรี บน App Store และ  Play Store

อีเวนต์แบบจำกัดเวลา “The Mask of The Ibis” จะเป็นการแนะนำภารกิจใหม่ใน Ancient Egypt ซึ่งจะพร้อมให้เล่นในเกมตั้งแต่วันที่ 4-7 เมษายน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Assassin’s Creed โปรดดูที่ การรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของเรา

 

เมนู