Ubisoft ฉลองครบรอบ 20 ปี ของเกม Tom Clancy

Ubisoft ฉลองครบรอบ 20 ปี ของเกม Tom Clancy

20 ปีก่อน Storm Entertainment และแบรนด์ Tom Clancy ได้เข้าร่วมกับ Ubisoft สร้างเป็นแฟรนด์ไชส์ใหญ่ตัวแรกของบริษัท นับตั้งแต่นั้นทีมงานของ Ubisoft จากทั่วทุกมุมโลกได้สร้างเกมที่ได้แรงบันดาลใจจากนักเขียนนวนิยายแนวเทคโนโลยีสุดตื่นเต้นอย่าง Tom Clancy ขยายผลงานเกมของตัวแบรนด์และฐานแฟนไปมากมาย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญ ทีมงาน Ubisoft News ได้พูดคุยกับทีมที่เคยร่วมงานกับ แบรนด์ Clancy ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของแฟรนไชส์ และมีการพัฒนาไปอย่างไรบ้างในตลอดเวลาหลายปีนี้

ต้นกำเนิดแห่ง Red Storm และเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ต้องใช้สมอง

ในช่วงกลางยุคทศวรรษที่ 1990 บริษัท Virtus Corporation ร่วมกับ Simon & Schuster Interactive และ Clancy Interactive Entertainment ได้วางจำหน่ายเกมจำลองเรือดำน้ำที่มีชื่อว่า Tom Clancy’s SSN เกมประสบความสำเร็จอย่างมาก และทีมงานได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับต่อไปอย่างถาวร นำไปสู่การก่อตั้ง Red Storm Entertainment ในปี 1996 สตูดิโอนี้ทำโปรเจคขนาดเล็ก เช่นเกมที่มีชื่อว่า Power Plays ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหนังสือของ Clancy แต่ในขณะเดียวกันนั้น ทีมงานก็ได้พัฒนาโปรเจคใหญ่ที่จะกลายเป็น Rainbow Six ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1998 ควบคู่ไปด้วย

“เราตั้งใจจะนำสาระสำคัญของ ‘ความรู้สึกแบบ Clancy’ – โครงเรื่องแบบวีรบุรุษของมัน, แนวคิดที่ว่าคนธรรมดาก็สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นได้ – และนำสิ่งเหล่านั้นใส่ลงไปในเกมแนว FPS” Steve Reid หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ubisoft Red Storm และกรรมการผู้จัดการของสตูดิโอในช่วง 20 ปีที่ผ่านมากล่าว Reid ยังบอกเราอีกว่า Rainbow Six ได้นำเสนอสิ่งแนวคิดที่เรียกว่า “ยิงโดนนัดเดียวตายทันที” ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฎิวัติแนวทางเกมยิงไปอย่างสิ้นเชิง

“เป้าหมายคือการทำให้เกมของเรามีความสมจริงมากขึ้น และพยายามสร้างความแตกต่างกับแนวเกมวิ่งยิงทั่วไปที่เป็นกระแสอยู่ในยุคนั้น” Elizabeth Loverso รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ Ubisoft Red Storm กล่าว เมื่อการเหนี่ยวไกมีความหมายมากขึ้น มันก็ลดจังหวะของแอคชันให้ช้าลงไป Loverso อธิบาย

“การปฎิวัตินั้นทำให้เกมกลายเป็นเกมแนวยิงที่ต้องใช้สมอง” เธอกล่าวต่อไป “จู่ ๆ ผู้เล่นก็ต้องวางแผนล่วงหน้า, ต้องคิดว่าพวกเขาจะลอบผ่านไปได้ยังไง, จะต้องบรรจุกระสุนใหม่ตอนไหน ฯลฯ เกมเพลย์นั้นแตกต่าง, และเหล่าผู้เล่นก็จดจำมันได้แทบจะในทันที”

ทีม Red Storm รู้ดีกว่าพวกเขามีอะไรบางอย่างที่พิเศษจริง ๆ แม้แต่ก่อนเกมจะวางจำหน่าย Reid ระลึกถึงคืนที่ Rainbow Six เสร็จสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี (หมายถึงกระบวนการพัฒนาเสร็จสิ้นและเกมพร้อมที่วางจำหน่าย), ทีมพัฒนาหลายคนอยู่ที่สตูดิโอเลยเวลางานเพื่อเล่นเกม เกมประสบความสำเร็จในทันที “เราไม่สามารถผลิตแผ่นเกมให้เร็วพอทันกับความต้องการเลยทีเดียว!” Loverso กล่าว

ต่อมาเมื่อ Red Storm เข้าร่วมกับ Ubisoft หรือที่รู้จักกันในชื่อ Ubi Soft Entertainment ในปี 2000 สตูดิโอ North Carolina มีเป้าหมายเดียวคือพัฒนาเกมที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้น ในไม่ช้านี่ก็เป็นเช่นนั้นกับ Ghost Recon (2001) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เกมหลายแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศจากการต่อสู้ในอาคารอันตึงเครียดไปสู่เขตสงครามและสภาพแวดล้อมกลางแจ้งซึ่งในที่สุดก็สามารถทำได้อย่างสมจริงด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

“Clancyverse” (จักรวาล Clancy) เริ่มที่จะขยายออกไป จากนั้นไม่นาน สตูดิโออื่น ๆ ของ Ubisoft ก็ได้แรงบันดาลใจที่จะทำให้เกมมีประบสบการณ์ที่รุ่มรวยยิ่งขึ้นไปอีก

จุดเขียวสามจุด: นำ Splinter Cell มาสู่ Clancyverse

ในปี 2002 หลายปีก่อนที่แบรนด์ใหม่อย่าง Assassin’s Creed จะประสบความสำเร็จ ทีมงานUbisoft Montréal ถูกวางตัวให้วางจำหน่ายเกมแนวลอบเร้นเกมใหม่: Splinter Cell ในตอนนั้น Helene Juguet (ในขณะนี้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการอยู่ที่ Ubisoft Film & Television ในปารีส) รับผิดชอบทีมการตลาดของเกมในสหรัฐฯ และเล็งเห็นทันทีว่าเกมมีศักยภาพ เธอจึงร่วมกับทีมคิดแผนการใหญ่ที่จะนำ Splinter Cell เข้าสู่จักรวาลเกมของ Tom Clancy

“จากมุมมองของการเล่าเรื่อง, มันดูสมเหตุสมผลมาก” Juguet บอกเรา “Splinter Cell เน้นไปที่เรื่องราวของสายลับ Sam Fisher และหลายแง่มุมของเกมเพลย์ก็มีความเป็นแทคติก เทคโนโลยีอันน่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกมจากตระกูล Clancy games”

ความสำเร็จของเกม Rainbow Six และ Ghost Recon ภาคแรก ทำให้ทีมงานเชื่อว่าการใช้ยกชื่อ Clancy มาใช้กับ IP ใหม่ จะช่วยทำให้เกมมีความโดดเด่น Juguet จำได้ว่า Microsoft นำเกมไปขึ้นเวที E3 และพรีเซนต์ Splinter Cell ว่าเป็นเกมที่ต้องมีสำหรับเครื่องเกมที่กำลังจะวางขายอย่าง Xbox

จากคำบอกเล่าของ Juguet ระบบเกมเพลย์อันแปลกใหม่ของ Splinter Cell, ตีมและเรื่องราวอันเข้มข้น, และความน่าสนใจของตัว Sam Fisher ในฐานะตัวละครช่วยให้แฟรนด์ไชส์ประสบความสำเร็จ

“จากมุมมองของการตลาด ทีมพัฒนาได้สร้างองค์ประกอบที่โดดเด่น เช่น กล้องมองภาพกลางคืนอันเป็นเอกลักษณ์” Juguet กล่าว

Juguet มีความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับการสร้างเกมตระกูล Tom Clancy อยู่มากมาย และหนึ่งในเกมที่เธอชื่นชอบที่สุดคือภาคต่อของ Splinter Cell ภาคแรก ที่มีชื่อว่า Pandora Tomorrowซึ่งวางจำหน่ายในปี 2004.

“สำหรับเกมนี้ เราช่วยกันเลือกชื่อกับ (ผู้จัดการแบรนด์ในยุคนั้น) Xavier Fouilleux ซึ่งเหนือความคาดหมายนิดหน่อย แต่มันเข้ากับเกมได้อย่างยอดเยี่ยม” Juguet กล่าว “ฉันยังรักมันเพราะมันมีโหมดมัลติเพลเยอร์ที่พิเศษมาก ด้วยการปะทะกันของฝ่ายนักรบรับจ้างและสายลับที่จำนวนไม่เท่ากัน ฉันไม่แน่ใจว่าผู้คนจะยังจำมันได้หรือเปล่า แต่มันเป็นอะไรที่ปฏิวัติวงการมากในยุคนั้น!”

การขยายตัวของจักรวาล Clancy: จากการพัฒนาคู่ขนานกัน สู่ การร่วมพัฒนาในระดับโลก

เมื่อเกมและซีรีส์ใหม่ ๆ ถูกวางจำหน่ายในช่วงสิบปีให้หลัง Ubisoft Red Storm ได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสตูดิโอนานาชาติของ Ubisoft และยกระดับความร่วมมือไปอย่างมาก

“มันชัดเจนสำหรับเราว่า เราเกือบจะมีของดีอยู่เยอะเกินว่าจะจัดการไหวด้วยตัวของเราเอง: เราต้องการหุ้นส่วนเพิ่ม” Reid บอกกับเรา ทีมงาน Ubisoft Red Storm เชี่ยวชาญการพัฒนาด้านมัลติเพลเยอร์ของเกมตระกูล Clancy อย่างที่ได้เห็นกันในเกม Ghost Recon ซึ่ง Ubisoft Paris เป็นทีมหัวหอกในการพัฒนา

ขณะที่หน้าที่และความเกี่ยวข้องของ Ubisoft Red Storm ในเกมของ Clancy ได้ขยายไปหลากหลายขึ้น มัลติเพลเยอร์ยังคงเป็นความถนัดพิเศษ: สตูดิโอรับผิดชอบ Dark Zone ในเกม The Division ซึ่งเป็นแฟรนด์ไชส์ที่นำการสร้างโดย Ubisoft Massive.

“ณ จุดนี้” Reid พูดกับเรา “เรากำลังร่วมมือกันในโปรเจคใหญ่ที่ทุกคนมีบทบาท และสมาชิกทีมเหล่านั้นที่อยู่กระจัดกระจายกันในสตูดิโอทั่วโลกกลายมาเป็นทีมใหญ่ทีมเดียว”

ห้วงเวลาแห่งแสงสว่างและความมืด: การเขียนเรื่องราวอันสมจริง

แม้ว่าการคิดค้นสิ่งแปลกใหม่คือสิ่งที่ทำให้เกมจาก Tom Clancy มีชื่อเสียง ทุกคนที่พูดคุยกับเราได้บอกว่าเรื่องราวคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในระยะยาว

“ความผิดพลาดใหญ่หลวงที่สุด ที่เราจะทำได้คือการทำเสมือนว่าเกมเพลย์และเรื่องราวเป็นสองอย่างที่แยกออกจากกัน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทั้งสองอย่างมีความเท่าเทียมกันในประสบการณ์การเล่นและต้องทำงานผสานกันเพื่อสร้างเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” Lauren Stone กล่าว นักเขียนที่ทำงานที่ Ubisoft Massive ที่ทำงานสร้าง Rainbow Six Siege, The Division และ กำลังทำงานร่วมกับทีม IP ของ Ubisoft ในเกมของ Tom Clancy

Richard Dansky นักเขียน Clancy และหนึ่งในผู้ดูแลสินทรัพย์ของแบ Clancy จากคำบอกเล่าของเขา การผสมผสานเรื่องราวและเกมเพลย์ได้พัฒนาสูงขึ้นมาตลอดในช่วงหลายปี

“ในชุดภารกิจแรกสำหรับ Ghost Recon เนื้อเรื่องที่คุณมีคือกำแพงตัวหนังสือขนาดมหึมาที่จะมอบให้คุณในช่วงต้นภารกิจ แล้วก็จบแค่นั้น!” Dansky กล่าว

สำหรับ Dansky หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการทำงานก็คือ “การแปรความฝันให้เป็นความจริง เพื่อผู้เล่นจะได้มองเห็นตัวเองเป็นสุดยอดมือปฏิบัติการที่ได้รับการฝึกฝนขั้นสูงที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสถานการณ์” การสร้างเรื่องราวของ Clancy ต้องใช้การค้นคว้ายกระดับไม่ใช่แค่เพียงสิ่งที่ตั้งอยู่บนเวทีการเมืองโลก แต่ลงลึกไปถึงความเข้าใจโลกของ Clancy และการเข้าถึงโลกแห่งความเป็นจริง

“กุญแจสำคัญคือการรู้เท่าทันกระแสของการเมืองโลกเพื่อเข้าใจว่าสถานการณ์ใดที่จะวิวัฒนาการเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้” Dansky อธิบาย

เกมของ Clancy นั้นอยู่ใกล้กับกระแสมากถึงขนาดว่าบางครั้งสามารถทำนายเหตุการณ์จริงของโลกได้ Ghost Recon เกมที่วางจำหน่ายในปี 2001 แต่มีเรื่องราวในปี 2008 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย และสะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงในเดือนสิงหาคมปี 2008

Matthew Corso ผู้อำนวยการการพัฒนาเกี่ยวกับ IP ของ Clancy ยังได้เน้นย้ำความสม่ำเสมอตลอดทุกแฟรนด์ไชส์ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ

“ในด้านนั้นเรามีเครื่องมือกลางที่สำหรับทำให้เราติดตามประวัติเบื้องหลังของตัวละครแต่ละตัวและสถานะปัจจุบันของพวกเขาในจักรวาลนี้” Corso กล่าว

นอกจากนี้แล้ว ทีม IP ของ Clancy ซึ่งตั้งอยู่ที่ Ubisoft Reflections ใน Newcastle-upon-Tyne ประเทศอังกฤษ ได้สร้างเสาหลักในการเล่าเรื่อง 5 ประการเพื่อให้มั่นใจว่า ความสม่ำเสมอ, ความแม่นยำ, และความร่วมมือ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุก ๆ เกมของ Clancy

“เสาหลักเหล่านี้ และองค์ประกอบอื่น ๆ ทำให้มั่นใจว่าผู้เล่นสามารถระบุตีมและตัวละครที่ถูกแสดงภายในเกมได้” Corso กล่าว “ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการให้ตัวเอกของเราต่อสู้เพื่อความดีเสมอ แต่ตัวร้ายของเราจะต้องสมจริงและมีแรงจูงใจที่น่าเชื่อ”

ส่วนสำคัญอีกอย่างของการทำให้เกมมีความสมจริง ก็คือการหาความสมดุลระหว่างเรื่องราวแต่ละส่วน Stone กล่าว

“ถ้าเนื้อเรื่องมันมืดหม่นเกินไป งั้นความมืดก็จะไม่มีผลกระทบหนักหน่วงอีกต่อไป” เธออธิบาย  Stone ต้องรับมือกับเรื่องนี้ใน The Division 2 โดยการนำเสนอตัวละครเล็ก ๆ อย่าง Eva Garcia ที่บันทึกเสียงของเธอสามารถพบได้เมื่อผู้เล่นสำรวจซาก Kenly College ใน Washington DC บันทึกของ Garcia เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เรื่องเพศของมหาวิทยาลัยของเธอ ยังคงเป็นประเด็นที่ให้ความรู้สึกสมจริงในเนื้อเรื่องในภาพกว้าง

“บางครั้ง ตัวละครเล็ก ๆ ก็มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันให้ความรู้สึกสมจริงกับผู้เล่น พร้อมประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงถึงกันได้” Stone กล่าว

มองไปสู่อนาคตของเกมตระกูล Clancy

“อะไรคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเกมเหล่านี้ คือการที่ตีมของมันอยู่เหนือกาลเวลา” Reid กล่าว “ตัวเอกของเรื่องราว ความคิดที่ว่าคนหนึ่งคนสามารถกู้โลกได้ เชื่อมโยงกับความรู้สึกพึงใจที่ได้เป็นวีรบุรุษนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีวันตกยุค”

จากมุมมองของการเล่าเรื่อง อนาคตคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง

“ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในหลายทิศทาง – ทั้งโลก, เทคโนโลยี; ทุกอย่างเลยจริง ๆ – นั่นหมายถึงโอกาสอีกมากมายที่จะใช้ประโยชน์ เพื่อผลักดันเรื่องราวและปล่อยให้มันวิวัฒนาการไปในทิศทางใหม่” Dansky บอกกับเรา

ยกตัวอย่างเช่น Rainbow Six Siege ได้เติบโตและวิวัฒนาการตามกลุ่มผู้เล่น ตีมของเกมและคุณค่าของมันได้เปลี่ยนไปในด้านการแข่งขัน, ทีมเวิร์ค, และฝีมืออันเหนือล้ำ ในทางกลับกัน The Division แม้จะมีการพูดถึงเจ้าหน้าที่ลับของรัฐบาล ได้สำรวจพื้นที่สีเทา ๆ ระหว่างฝักฝ่าย เช่นในตอนล่าสุดในเนื้อเรื่องของ Faye Lau  ในส่วนเสริม Warlords of New York ตัวเกมได้มอบการตัดสินใจ, ทีมเวิร์ค, และประกอบไปด้วยตัวละคร ที่มีมูลเหตุและแรงจูงใจที่เหมาะสม

เป้าหมายใหญ่อีกประการของทีมที่ทำเกมจาก Tom Clancy ในอนาคต คือการทำให้ผู้เล่นพึงพอใจ และมอบประสบการณ์อันน่าจดจำ ตัวอย่างเช่น Rainbow Six Siege ได้รับความเป็นอีสปอร์ตและเติบโตเป็นกลุ่มผู้เล่นที่ชื่นชอบการแข่งขัน และงาน Rainbow Six Siege World Cup ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน 2564 ตัวอย่างอีกแบบคือการทำงานกับ Ubisoft Red Storm ไปจนถึง Ubisoft Reflections, Ubisoft Düsseldorf และ Ubisoft Mumbai เพื่อนำ Splinter Cell ไปสู่นวตกรรมใหม่ ๆ อย่างแพลตฟอร์ม VR.

คุณสามารถเล่นเกม Tom Clancy ทั้ง 15 เกม ตั้งแต่ Rainbow Six, Ghost Recon, Splinter Cell ภาคแรก และอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ Ubisoft+.

 

เมนู