ทำไมนักโบราณคดีอียิปต์ถึงสามท่านถึงสอนประวัติศาสตร์ผ่าน Assassin’s Creed Origins

การตีความอาณาจักรอียิปต์ยุคพโตเลมีของ Assassin’s Creed Origins คือหนึ่งในการนำเสนอการมีปฎิสัมพันธ์ที่เที่ยงตรงที่สุดของยุคนั้น แม่นยำจนถึงขนาดที่ว่านักโบราณคดีอียิปต์ Dr. Chris Naunton ได้กล่าวเอาไว้ว่า “นี่คือภาพจำลองอียิปต์โบราณที่ดีที่สุด” ความเห็นของ Naunton เกิดขึ้นระหว่างตอนแรกของซีรีส์ Playing in the Past ซึ่งมีทั้งหมด 6 ตอน ที่จะนำเสนอประวัติศาสตร์ของอียิปต์ผ่านมุมมองของ Assassin’s Creed Origins ซีรีส์นี้ถ่ายทอดสดทาง Twitch ซึ่ง Naunton และ นักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยเซาแธมตัน Gemma Renshaw และผู้ช่วยศาดาจารย์ด้านประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมิซูรี Dr. Kate Sheppard



นักโบราณคดีทั้งสามท่านพาผู้ชมสู่เมือง ธีบส์ อาจารย์ Naunton เริ่มโดยการเปรียบเทียบรูปภาพจากการเดินทางของเขากับทิวทัศน์ภายในเกมก่อนจะกลับมาเป็นตัวเองและเคลื่อนที่ไปภายในโลก ตอนต่อไปของ Playing in the Past จะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้ 4 มีนาคม เที่ยงคืน(เวลาประเทศไทย) ซึ่งจะมีเนื้อหาที่ต่างกันในด้านอื่น และมีแขกรับเชิญคนใหม่ ดังที่ทุกท่านจะได้เห็นตามตารางด้านล่าง:

  • 4 กุมภาพันธ์ – “เยี่ยมชมเมือง ธีบส์ สมัยพโตเลมี” กับ Dr. Kate Sheppard และ Gemma Renshaw (จบไปแล้ว)
  • 4 มีนาคม เที่ยงคืน “วิธีมีชีวิตอมตะ: ความตายและชีวิตหลังความตายในอียิปต์โบราณ” กับ Dr. Carrie Arbuckle-MacLeod, Kate Sheppard, และ Gemma Renshaw
  • 8 เมษายน 4 ทุ่ม – “จากล้อของนักปั้นหม้อสู่เตาอบของคนทำขนมปัง: งานฝีมือและเทคโนโลยีโบราณ” กับ with Dr. Sarah K. Doherty, Chris Naunton, และ Gemma Renshaw
  • 13 พฤษภาคม – “ใครอาศัยอยู่ในอียิปต์สมัยพโตเลมี?” กับ Dr. Heba Abd el Gawad, Chris Naunton, และ Gemma Renshaw
  • 10 มิถุนายน – “มุมมองต่ออียิปต์โบราณในศตวรรษที่ 19” กับ Dr. Kate Sheppard, Ziad Morsy, และ Gemma Renshaw
  • 15 กรกฏาคม – “การสร้างภาพและใช้ชีวิตในโลกยุคโบราณอย่างสมจริง” เวทีเสวนาพร้อมเกมเพลย์สด กับ ศาสดาจารย์ Stephanie Moser, Gemma Renshaw, Chris Naunton, Kate Sheppard, และแขกรับเชิญพิเศษ

โลกของ Assassin’s Creed Origins มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาหลังจากรายการ Discovery Tour by Assassin’s Creed – Ancient Egypt ที่ได้แปรสภาพอียิปต์ในยุคพโตเลมีให้กลายเป็นพิพิฒภัณฑ์ที่มีชีวิตพร้อมมักกุเทศน์ เพื่อเสาะหาว่าอะไรคือความเชี่ยวชาญเมื่อคิดถึงการตีความอียิปต์ของ Origins และทำไมพวกเขาจึงตัดสินใจออกอากาศการสอนของพวกเขา เราได้คุยกับ Renshaw, Sheppard, และ Naunton.

จุดกำเนิดของความคิดในการสร้าง “Playing in the Past” มาจากไหน? อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณอยากจะสตรีมให้สาธารณะได้ชม?

Chris Naunton: ฤดูร้อนปีที่แล้ว ผมกำลังเขียนหนังสือสำหรับเด็กเรื่องคลีโอพัตรา ซึ่งก็ตั้งใจจะใช้ชื่อว่า “Cleopatra Tells All,” และผมกำลังอยู่ในขั้นตอนที่ผมต้องให้ไอเดียคนทำภาพประกอบว่าอยากให้กรุงอเล็กซานเดรียหน้าตาเป็นยังไง ผมอยากจะส่งอะไรสักอย่างไปให้เขาแล้วบอกว่า “ดูนี่ มันหน้าตาแบบนี้นี่แหละ”

ผมก็เลยกูเกิ้ลหาภาพจำลองของกรุงอเล็กซานเดรีย และผมรู้ว่าคนชื่อ Jean-Claude Golvin ศิลปินชาวฝรั่งเศสมีภาพเขียนสีมากมายของโลกยุคโบราณ รวมถึงอียิปต์และกรุงอเล็กซานเดรียด้วย แต่ผมหามันไม่เจอ สิ่งที่ผมเจอคือรายละเอียดจากวีดิโอเกมที่ชื่อ  Assassin’s Creed Origins.

ผมก็เลยไล่ถามว่า “นี่มันคืออะไร?” “ทำยังไงผมถึงจะได้มันมา?” ท้ายที่สุดผมก็เลยโพสลงทวิตเตอร์ว่า “พอจะมีใครบอกได้ไหมว่าผมจะไปหาเกมนี้ได้จากไหน?” เพราะว่าถึงจุดนี้ผมได้พบสิ่งที่เรียกว่า Discovery Tour แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ต้องเล่นเกมแล้ว ผมเดินไปรอบ ๆ ก็ได้

ผมบอกได้ว่ามันยอดเยี่ยมมาก และสุดท้าย Gemma ก็ตอบกลับมา  – เรารู้จักกันบนทวิตเตอร์และอีกหลายช่องทางในช่วงหลายปีที่ผ่านมา – และเธอก็ตอบว่า “ฉันมีเกมนี้ ฉันโชว์ให้คุณดูได้นะถ้าอยากดู”

ในขณะเดียวกัน Kate กับผม กำลังทำ podcast อยู่ด้วยกัน ซึ่งก็ประมาณเป็นการจำลองการเดินทางตามแม่น้ำไนล์ ผ่านมุมมองของนักเดินทางตามประวัติศาสตร์ชาวยุโรป ดังนั้นเมื่อ Gemma เสนอจะโชว์เกมให้ผมดู Kate ก็ตามมาดูด้วย

Kate Sheppard: ตอนที่ Gemma ตอบมา ฉันกำลังพยายามดิ้นรนหาและได้พบกัน และทั้ง Chris และฉันก็วานเธอช่วยพาเราดูสถานที่รอบ ๆ

Gemma Renshaw: ฉันเอามันไว้บนช่อง Twitch ของฉัน ฉันไม่เคยสตรีมมาก่อนเลย แต่ก็ต้องขอบคุณที่เพื่อนของฉันมาช่วยทำให้ Twitch ใช้การได้ และจากนั้นฉันก็เริ่มสตรีมนิดหน่อยให้พวกเขาได้เห็น และจากนั้นเราก็ได้ไปชมนั่นนี่ด้วยกัน และเราก็คุยกันผ่านทวิตเตอร์ ถึงจุดนั้น คนอื่น ๆ ก็เริ่มสนใจขึ้นมา

ทีแรก ฉันแค่อยากจะให้ Chris หาสิ่งที่เขาอยากเอาไปลงหนังสือ แต่มันมีความสนใจจากคนอื่น ๆ มากจนฉันคิดว่า “ทำไมเราไม่ทำต่ออีกสักตอนแล้วชวนคนอื่นมาดูด้วย?” เราก็เลยลงมือทำช่วงกันยายนปีที่แล้ว และมันไม่เหมือนอย่างที่เราทำมา “Playing in the Past” ในตอนนี้

คุณคุ้นเคยกับวีดิโอเกมมากน้อยแค่ไหนก่อนเหตุการณ์นี้?

CN: ผมมีเครื่อง Sega Master System II ช่วงปลายยุค 90 แต่นั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเล่นวีดิโอเกม และผมก็คิดว่านี่น่าจะไม่เหมาะสำหรับผม ผมซื้อ Xbox ระหว่างเหตุการณ์นี้เพราะผมชอบไอเดียทั้งหมดนี้มาก และผมไม่มั่นใจว่าผมจะใช้คอนโทรลเลอร์ได้ถนัดรึเปล่า แต่ผมก็คิดว่า “ผมอยากสำรวจมันด้วยตัวเอง” พอผมได้วิ่งวนไปรอบ ๆ เล็กน้อยผมก็คิดเลยว่า “นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย”

จุดไหนที่ทำให้คุณตัดสินใจทำให้มันเป็นซีรีส์จริงจัง?

GR: หลังจากที่เราทำรายการเมื่อเดือนกันยายน เราตัดสินใจว่าเราอยากลองใช้กับมหาวิทยาลัยเซาแธมตันว่าเขาจะยอมให้ทุนเราบ้างไหม และพวกเขาก็ให้ทุนเรา! นั่นคือตอนที่เราเรียกรายการว่า “Playing in the Past” และเกลาไอเดียให้ดี การได้รับทุนหมายความว่าเราสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญคนอื่นให้มาร่วมกับเราได้

ในแวดวงโบราณคดี เราพยายามให้คนจินตนาการว่าอนุสาวรีย์ต่าง ๆ หน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อมันไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่คนจำนวนมากทำแบบนั้นไม่ได้ เหมือนเช่นบางอย่างที่มีอยู่แค่ในความคิดหรือความเชื่อ การที่มีโอกาสเข้าไปในโลกใต้พิภพและแสดงให้ทุกคนเห็นการตีความนั้นมีประโยชน์มาก

ครั้งหนึ่งระหว่างสตรีม ฉันได้คุยกับบางคนในแชทยืดยาว และสิ่งที่พวกเขาพูดขึ้นมาก็คือ  “ฉันไม่คิดเลยว่านักวิชาการจะชอบเกม” และฉันก็บอกว่า “บางคนอาจจะไม่ชอบแต่บางคนก็ชอบ และมันไม่มีเหตุผลที่เราจะนำสองอย่างมาเชื่อมโยงกันไม่ได้” เราพิสูจน์แล้วว่ามันทำได้ และทำได้ดีมากด้วย

CN: ผมเป็นฟรีแลนซ์ ดังนั้นผมก็เลยชินว่าทำอะไรก็ได้เงินไม่มาก แต่ผมไม่เคยคิดว่าผมจะพอใจ และสามารถพูดได้ว่า “นี่เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยมอบทุนให้” นี่ไม่ใช่แค่คนสามคนที่ชอบโบราณคดีและเกม ผู้คนรู้แล้วว่ามันใช้งานได้จริง ๆ

ผมภูมิใจมาก และการได้เยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ที่ได้รับการสร้างไว้อย่างดีมาก – ผมเลยคิดว่า ถ้าผมชอบ ผมมั่นใจว่าน่าจะมีคนอื่นที่อยากทำแบบนี้เหมือนกัน ผมคิดว่ามันมีจำนวนมากจากที่เราได้รับ และความตื่นเต้นที่เราได้รับจากสิ่งนี้ด้วย

KS: Chris และ Gemma เป็นที่รู้จักของคนมากกว่าฉันและนักเรียนของฉัน ซึ่งส่วนใหญ่อายุ 18 ถึง 22 ปี ที่มหาวิทยาลัยนี้ เรามีทีมอีสปอร์ตระดับประเทศ เพราะฉะนั้นนักเรียนของฉันจำนวนมากชอบวีดิโอเกม พวกเขารักมันและเมื่อเราทำประวัติศาสตร์ด้านเทคโนโลยี ฉันกำลังพูดถึงสุพันธุศาสตร์ ก็มีนักเรียนมากมายถามว่าฉันเคยเล่น Bioshock บ้างรึเปล่า

นั่นคือตอนที่ฉันเริ่มจะคิดว่าฉันต้องหัดสนใจวีดิโอเกมบ้างแล้ว เพราะนักเรียนคอยย้ำอยู่ตลอดเวลา และมันเป็นวิธีให้ฉันเข้าถึงพวกเขาได้ หากฉันสามารถเข้าสู่โหมด “นี่คือวิธีเข้าถึงผู้คน” ถ้าเช่นนั้นบางทีเราอาจจะพบคนใหม่ ๆ ที่อาจจะสนใจให้เข้ามาได้ ถ้าเราในฐานะนักคิดไม่คุยกับสังคมภายนอก แล้วมัวแต่คุยกันในกลุ่มเล็ก ๆ กันเอง แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?

Gemma คุณเป็นแฟนของแฟรนด์ไซส์ Assassin’s Creed มันช่วยให้คุณสนใจประวัติศาสตร์ขึ้นบ้างไหม?

GR: แน่นอน! ฉันคิดว่าฉันหัวอกเดียวกันกับคนที่ดูสตรีม เพราะพวกเขาถามฉันเกี่ยวกับอียิปต์และประวัติศาสตร์ หรืออาจจะเกี่ยวกับเกมและฉันอาจจะรู้คำตอบ

ฉันไม่ได้รักแค่เรื่องราว แต่ฐานข้อมูลที่ใส่มาย้อนหลังไปถึง Assassin’s Creed II ฉันซึ้งใจที่พวกเขาพยายามผสานเนื้อเรื่องให้เข้ากับประวัติศาสตร์ในแบบที่น่าเชื่อ ฉันคิดว่ามันทำให้ฉันอยากรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่อยู่เบื้องหลัง ฉันขอสารภาพว่าฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูล  Medici จนกระทั่งได้มาเล่น Assassin’s Creed II และหลังจากนั้นฉันก็อยากเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขา

ตอนที่ Assassin’s Creed Origins วางขายแรก ๆ ฉันไม่ได้เล่นมันทันที แต่ฉันซื้อไว้ตอนคริสมาสต์ และหลังจากเล่นมันเยอะมากสองสัปดาห์ จนไมได้คุยกับเพื่อนร่วมห้องเลย

มันรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้สำรวจภาพจำลองสถานที่จริงที่คุณรู้จักเป็นอย่างดี?

KS: ฉันคิดว่าข้อเสียเดียวคือมันทำให้ฉันอยากไปที่นั่นจริง ๆ สิ่งที่สะเทือนอารมณ์มาก ๆ และฉันชอบมันเหลือเกินคือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เวลาคุณมองพื้น คุณได้เห็นก้อนหินเหมือนอย่างที่มันเป็นในชีวิตจริง และคุณสามารถจินตนาการว่าคุณอยู่ที่นั่นได้

คุณแทบจะรู้สึกถึงแสงแดด และคุณได้กลิ่นมัน คุณสูดหายใจมันเข้าไป และมันรู้สึกเหมือน “อาห์ โอเค ฉันกลับมาแล้ว ฉันอยู่ที่นี่” และคุณเกือบจะรู้สึกแบบนั้นเวลาคุณเล่นเกมและนั่นคือสิ่งที่ฉันรักมันมาก

CN: ผมคิดว่าบางอย่างที่เรากังวลคือระดับของการนำเสนอ เพราะว่ามีภาพยนตร์จำนวนมากที่ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงและทำให้เข้าใจผิด ผู้คนมักจะคิดว่าผมชอบหนังพวกนั้น แต่ผมแทบทนดูมันไม่ได้เลย การได้เข้าไปใน Origins ผมได้เห็นภาพมาเยอะมากพอที่จะรู้ว่ามันจะต้องยอดเยี่ยมแน่ ๆ

ผมมีเพื่อนเป็นเกมเมอร์ที่อาจจะพูดว่า “มันมีเกมใหม่เพิ่งออกชื่อว่า Assassin’s Creed Origins นายต้องชอบแน่” และผมก็บอกว่า “แหงละ ใช่สิ ฉันไม่ได้เล่นเกมนี่” ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่นักวิชาการคิดในตอนแรก แต่ตอนนี้ผมยอมแล้ว มันทำให้ผมกลายเป็นเกมเมอร์อยู่เหมือนกัน เวลาที่ผมไม่ได้อยู่ในอียิปต์โบราณ ผมก็อยู่บนดวงจันทร์ป่าของดาว Endor!

ช่วงเวลาที่ทึ่งที่สุดของผมคือการวิ่งขึ้นวิหาร Hatshepsut ที่ Deir el-Bahri ซึ่งก็เหมือนกัน ไม่เหมือนก็แค่ความวุ่นวายแบบโลกสมัยใหม่แบบทุกวันนี้ พวกเขาทำให้เราไม่ต้องซื้อตั๋ว ไม่ต้องเดินทาง แต่มันก็ยังเหมือนเดิม มันทำให้คุณอยากไปอยู่ที่นั่น แต่ผมเกือบอยากจะบอกว่ามันดีกว่าของจริงอีก

ผมยังอยากจะบอกอีกว่า การนำเสนอไม่จำเป็นต้องดีขนาดนี้ ผมแค่วิ่งไปรอบ ๆ เหมือนคนบ้า แค่วิ่งขึ้นเนินแล้วมองลงมาเห็นวิหาร และมันมีรายละเอียดมากมายอยู่ในนั้น ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันยอดเยี่ยมขนาดนี้ เราสตรีมนานกว่าที่ตั้งใจเป็นชั่วโมงในครั้งแรกเพราะเราอยากเดินดูไปเรื่อย ๆ

Chris คุณพูดถึงวิหารแห่ง Hatshepsut มันมีอะไรที่ประทับใจคุณในแง่การนำเสนอทางประวัติศาสตร์บ้างไหม?

CN: สำหรับผม คือข้อเท็จจริงที่ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงของช่วงเวลาในตอนท้ายราชวงศ์พโตเลมี ซึ่งเป็นเวลาที่น่าสนใจในแง่ที่ว่าอียิปต์หน้าตาเป็นยังไง คุณมีหินปูทางแตกที่กรุงอเล็กซานเดรีย และมันคงจะง่ายกว่าถ้าจะใส่หินปูทางใหม่เข้าไปจริงไหม? รายละเอียดพวกนี้มันยอดเยี่ยมมาก

แล้วคุณยังมีอนุสาวรีย์ต่าง ๆ [บางอัน] ถูกจดจำได้ในรูปแบบที่สลายไปแล้วครึ่งหนึ่ง และอันอื่น ๆ ยังถูกรักษาไว้อย่างดี มันกำลังมีอาคารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงปลายสมัยพโตเลมีและโรมันกำลังสร้าง และก็มีผู้คนที่ชัดเจนว่าเป็นชาวต่างชาติ ผสมผสานกับชาวอียิปต์ดั้งเดิม คุณยังมีชาวอียิปต์เฮเลนิก หรือแม้แต่ชาวกรีกต่างชาติ ความพยายามจะทำเรื่องพวกนี้มันสุดยอดสมจริงมาก

KS: ในการสตรีมครั้งท้าย ๆ ของเรา  เรามองหางานฝีมือโบราณ เรามีผู้เชี่ยวชาญ Dr. Sarah K. Doherty มาร่วมด้วย แต่เรากำลังคุยอยู่กับเธอ ซึ่งเธอก็บอกว่าปกติแล้วถ้าคุณเจอคนทำขนมปัง คุณจะต้องเจอคนทำเบียร์อยู่ข้าง ๆ กันเพราะว่ายีสต์ พวกเขาใช้ส่วนผสมเดียวกัน พวกเขาก็เลยแบ่งกัน ทั้งสองคนก็จะสะดวก แล้วเราก็เดินอยู่ในเกมผ่านร้านขนมปังและข้าง ๆ ก็มีโรงหมักเบียร์จริง ๆ นั่นเป็นส่วนที่ประทับใจฉันมาก

GR: สิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจกับ Assassin’s Creed ทุกเกม คือคุณภาพของแสง มันชัดเจนว่าทีมงานที่ Ubisoft เคยไปสถานที่เหล่านี้มาก่อนและพยายามจะทำให้แต่ละที่แตกต่างและสมจริง แสงใน Assassin’s Creed Valhalla แตกต่างกับแสงใน Origins มาก อย่างที่มันควรจะเป็นจริง ๆ

สตรีมแรกของคุณมุ่งเน้นไปที่เมือง ธีบส์ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเหนือจาก Discovery Tour คุณเคยใช้งาน Discovery Tour กันบ้างไหม? มีความคิกเห็นเกี่ยวกับมันยังไงบ้าง?

GR: เราพยายามจะทำแบบนั้นในสตรีมเมื่อเดือนกันยายน เราพยายามไปทัวร์ Step Pyramid แต่ปัญหาตอนเราทำแบบนั้นก็คือเราอยากจะพูดตอนที่เกมพูดอยู่พอดี มันก็เลยยากเกินไป ฉันก็เลยประกาศให้คนในสตรีมรู้พวกเขาจะได้ไปลองเอง

CN: ผมคิดว่า Discovery Tour ยอดมาก แต่มันเอามาใช้งานตอนไลฟ์ยากไปนิด ในแง่นึงมันก็เหมือนกับสิ่งที่เราพยายามจะนำเสนอระหว่างไลฟ์สตรีมอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังแนะนำให้ทุกคนไปลอง และผมชอบที่มันมีวัตถุของจริงให้ดูระหว่างอธิบายในทัวร์ ที่คุณสามารถอ่านได้ เป็นเครื่องยืนยันว่าเกมต้องสร้างอยู่บนรากฐานของการค้นคว้ามาอย่างดี เห็นชัดเจนเลย

ฉันกำลังสำรวจแม่น้ำฝั่งตะวันตกใน ธีบส์ ระหว่างสตรีม และทุกอย่างก็อยู่ในที่ ๆ ควรอยู่ ถ้าคุณคุ้นเคยกับส่วนนั้นของโลก [เหมือนผม] คุณไม่ต้องมีใครมาบอกเลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน เพราะทุกอย่างมันอยู่ตรงที่มันควรจะอยู่

ตอนฉันดูสตรีม ฉันสังเกตุว่าคุณไม่เคยต้องเปิดแผนที่เพื่อดูทางเลย คุณไปไหนมาไหนได้ถูกต้องเพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าอะไรอยู่ตรงไหนงั้นเหรอ?

CN: ก็ประมาณนึงครับ สภาพแวดล้อมมันเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ถนน เนิน หรือแม้แต่ภูมิประเทศก็ค่อนข้างตรง ผมไม่ต้องใช้แผนที่หาอะไรเพราะพวกมันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

คำถามสุดท้ายสำหรับทุกคน แน่นอนว่าพวกคุณเป็นนักโบราณคดีอียิปต์ แต่ Assassin’s Creed เคยไปอียิปต์มาแล้ว ยังมีที่ไหนที่คุณอยากสำรวจอีกบ้างหรือเปล่า?

GR: ฉันมีอยู่สองสามที่ ฉันว่าอาณาจักรมาลีช่วง ศตวรรษที่ 13-16, เส้นทางสายไหมของมองโกเลียศตวรรษที่ 12-13 หรือจักรวรรดิขอม ช่วงศตวรรษที่ 12-13 ตอนที่นครวัดถูกสร้างขึ้น มันมีคำตอบที่เป็นไปได้มากมาย และในความเป็นจริงฉันก็คงเล่นทุกอันที่หยิบมาทำเกม แต่ส่วนตัวฉันอยากเห็นการสำรวจประวัติศาสตร์โลกที่กว้างขึ้นมากกว่าแค่ทางตะวันตก ฉันอยากจะพูดถึงการรุกรานอียิปต์ของนโปเลียน ช่วงปี  1850 อาจจะเป็น DLC ของ Origins หรือ Unity ก็ได้ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ Chris, Kate, ฉันรู้เกี่ยวกับมันค่อนข้างดี ฉันคิดว่าผู้เล่นคงตื่นตาตื่นใจที่ได้เยี่ยมชมสถานที่ที่พวกเขาเคยไปมาใน Origins แต่คราวนี้เป็นในสภาพศตวรรษที่ 19

CN: แม็กซิโกในช่วงปลายอารยธรรมแอซเท็ก เป็นช่วงเวลาของนักสำรวจและกองทัพสเปน แนวคิดที่ว่าอารยธรรมใหญ่ถูกรุนรากด้วยเทคโนโลยีและกองทัพที่เหนือกว่าของยุโรปมีความคล้ายกับเรื่องราวใน Origins และมันคงงดงามน่าดู

KS: ฉันเห็นด้วยกับแม็กซิโกหรืออินคาในเปรู วัฒนธรรมลุ่มน้ำมิซิซิปปี้ อย่าง Mound Builders และ คาโอเกีย หรือการขยายตัวไปทางตะวันตกของอเมริกันระหว่างยุคล่าทอง มันคงเป็นมุมมองที่น่าสนใจว่าคนขาวได้กระทำอะไรกับผู้คนและธรรมชาติเอาไว้บ้าง

ติดตามตอนแรกของ “Playing in the Past” ได้ที่นี่ และรับชมตอนต่อไปได้ ที่นี่ สำหรับทุกอย่างเกี่ยวกับ Assassin’s Creed related ติดตามได้ที่ บทความเก่าของเรา

 

เมนู